เกาะเทรนด์รักโลก! กับ 5 วิธีสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนให้ร้านอาหาร

ท่ามกลางกระแสภาวะโลกร้อนที่เป็นปัญหาระดับจักรวาล! การหันกลับมาสร้างความยั่งยืนให้กับโมเดลธุรกิจ ก็มีความสำคัญมากเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นเทรนด์รักโลกที่เหล่าธุรกิจในหลาย ๆ อุตสาหกรรมต้องสนใจ เพราะวินาทีนี้ ธุรกิจไหนที่ยังล้างผลาญทรัพยากร และเร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนมากขึ้นอยู่ อาจเป็นธุรกิจที่โดนปัดทิ้งจากคนเจนใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย จนคุณไม่กล้าลองเลย!

ความยั่งยืน อาจเป็นคำที่ดูเหมือนจะนามธรรมและเป็นเป้าหมายในอุดมคติที่ยากจะไปถึงของใครหลาย ๆ คน แต่ความจริงแล้ว ‘ความยั่งยืน’ นั้นทำได้จริง เพียงแค่ต้องเข้าใจในหลักการที่ว่า

‘ธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องมีระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ดำเนินการควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม’

หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ธุรกิจที่จะมีความยั่งยืนนั้น ต้องทำให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมโดยรอบเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้! คิดภาพว่า ถ้าเราสร้างบริษัทให้อลังการ สร้างสินค้าเลิศหรูจากทรัพยากรโดยรอบแบบไม่แบ่งใคร สุดท้าย ชุมชนและสิ่งแวดล้อมก็จะอยู่ไม่ได้ ไม่ตายจากก็ย้ายหนี แล้วธุรกิจของเราจะเหลือใครเป็นลูกค้าจริงไหม?
ภาวะโลกร้อน กับความยั่งยืน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกของเรากำลังเผชิญกับภาวะเรือนกระจกมากขึ้น แนวทางการบริหารธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการมีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนจึงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดมากขึ้น ว่าเป็นทางออกของภาวะโลกร้อน บวกกับเทรนด์รักโลกที่กำลังมา ก็ทำให้ผู้บริโภคหลาย ๆ คน เริ่มออกมาเรียกร้องให้ทุก ๆ บริษัทมีแนวทางการบริหารที่เป็นมิตรกับโลก นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ธุรกิจไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ ก็ต้องหันมาสนใจหลักการความยั่งยืนให้มากขึ้น!

และในปี 2023 นี้ หลาย ๆ ธุรกิจต่างก็พยายามหยิบเอาวิธีต่าง ๆ มาสร้างความยั่งยืนให้กับโลกและแบรนด์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุรีไซเคิลจากขยะทะเลของรองเท้า Adidas, การพัฒนาโปรตีนจากแมลง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้กับโลก หรือการปรับแพ็กเกจจิ้งต่าง ๆ ของแบรนด์เครื่องสำอางค์ให้เป็นวัสดุที่นำไปรีไซเคิลต่อได้ ทุกอย่างล้วนเป็นไอเดียความยั่งยืนที่ส่งผลกับความคิดและการตัดสินใจของผู้บริโภคทั้งนั้น

ความสนใจของผู้บริโภคอาจเป็นเพียงเทรนด์ หรือผลตอบรับระยะสั้น ๆ แต่ในระยะยาวแล้ว การมีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ก็ถือเป็นความสำเร็จแบบล่วงหน้า และเป็นการสร้างหลักประกันว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้ในอนาคต แล้วสำหรับธุรกิจร้านอาหารล่ะ? มีไอเดียรักโลกและวิธีสร้างความยั่งยืนอะไรบ้าง ที่เหล่าร้านอาหารสามารถหยิบไปผสานในธุรกิจได้? ถ้าอยากรู้แล้ว ก็เลื่อนลงมาดูต่อได้เลย!
1. วัตถุดิบท้องถิ่นคือคำตอบ

อย่ามัวแต่โฟกัสกับเทรนด์รักโลกมากเกินไป เพราะความยั่งยืนไม่ใช่แค่การคิดว่า จะรักษาทรัพยากรของโลกใบนี้อย่างไร หรือต้องเอาขยะกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดด้วยวิธีไหน แต่ความยั่งยืน คือการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้ในระยะยาว

เทรนด์การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเองก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในไทย หลายคนอาจจะมองว่า นี่เป็นเพียงการตลาดที่พยายามชูวัตถุดิบที่แตกต่าง ด้วยการใช้ของไทยที่คนไม่ค่อยรู้ แต่ความจริงแล้ว การใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเหล่านี้มีผลกับความยั่งยืนมากกว่านั้น
ความยั่งยืน วัตถุดิบท้องถิ่น

การใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไม่เพียงช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขนส่งข้ามประเทศ แต่ยังเป็นการสนับสนุนผู้ผลิตอย่างเกษตรกร ชาวนา ชาวสวนโดยตรง ทำให้ผู้ผลิตเหล่านี้สามารถเติบโตและไม่ล้มหายไปเพราะปัญหาเศรษฐกิจ นั่นจึงเป็นการการันตีได้ว่า ในอนาคตอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า คุณจะมีพาร์ทเนอร์ที่เติบโตขึ้นมาอยู่เคียงข้างกันได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศ ก็ยังเป็นการการันตีความสดใหม่ ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ เมื่อเทียบกับการสั่งของนอกเข้ามานั่นเอง
2. ลดการสร้างขยะอาหาร (Food Waste)

ปฏิเสธไม่ได้ว่า อย่างไรธุรกิจร้านอาหาร ก็มาพร้อมการสร้างขยะอาหาร (Food Waste) ไม่มากก็น้อย เมื่อป้องกันไม่ได้ วิธีของเรา ย่อมเป็นการทำอย่างไรก็ได้ ให้ขยะอาหารเหล่านี้เหลือน้อยที่สุด และกลายเป็นประโยชน์ได้มากที่สุด!

การลด Food Waste สามารถทำได้ตั้งแต่การกำหนดปริมาณอาหารในจานให้พอดี การนำเศษอาหารที่เหลือไปทำเป็นปุ๋ยหมักต่อ การพยายามใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ให้ครบทุกส่วน หรือการมองหาสถานที่เพื่อบริจาคอาหารที่เกินมาต่อได้ อย่างในไทยเอง ก็มีแอปพลิเคชัน ‘ยินดี’ (Yindii) ที่ถูกสร้างมาเพื่อลดการเกิดขยะอาหารโดยเฉพาะ

โดยทางแอปจะนำอาหารที่ขายไม่หมดจากร้านอาหารและโรงแรมต่าง ๆ มาขายในราคาลดพิเศษจากราคาจริงราว ๆ 50 – 80% เรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งฝั่งร้านอาหารที่สามารถขายสินค้าต่อได้ แม้จะในราคาที่ลดลง แต่ก็ดีกว่าทิ้งไป และฝั่งผู้บริโภคที่ได้กินอาหารคุณภาพดีในราคาสุดพิเศษ

ด้วยวิธีในการลดขยะอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ร้านอาหารสามารถลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจได้ ดีต่อโลก แถมยังดีต่อธุรกิจด้วยนะ
3. สร้างแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับโลก (และเงินในกระเป๋า)

Back to Basic กับวิธีง่าย ๆ ที่ได้ผลจริง ๆ อย่างการรีไซเคิล ประหยัดน้ำ และประหยัดพลังงานภายในร้าน! ความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่คิดจะทำคนเดียวก็สำเร็จได้ เพราะถ้าเราอยากให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน พนักงานในร้านก็มีส่วนสำคัญมาก ๆ เรียกได้ว่า แค่ความร่วมมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เปลี่ยนอะไรได้หลายอย่างเลย
วิถีการปฏิบัติที่ยั่งยืน

เจ้าของธุรกิจ จำเป็นต้องปลูกฝังพฤติกรรมรักโลกให้กับพนักงานของตนเอง อาจจะเริ่มจากการตั้งกฏเกณฑ์ของร้าน ค่อย ๆ เทรนด์ให้พนักงานเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืน และไม่ลืมที่จะแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดจากความช่วยเหลือของเหล่าพนักงานของคุณ
4. เป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรที่ยั่งยืน

อย่าลืมว่าหลักสำคัญของความยั่งยืนคือการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน! การมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะจับมือกันไปตลอดทาง จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เส้นทางของคุณมั่นคงขึ้น แล้วองค์กรไหนบ้างที่น่าจับมือด้วย? เริ่มได้ตั้งแต่เหล่าเกษตรกรท้องถิ่นทั้งหลาย ที่เราสามารถเป็นพาร์ทเนอร์ในการรับส่งวัตถุดิบไปด้วยกัน กลุ่มช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม กลุ่มแฟร์เทรด หรือจะเป็นร้านขนม คาเฟ่ หรือร้านอื่น ๆ ที่มีแนวคิดเรื่องความยั่งยืนเช่นกัน เราสามารถเป็นพาร์ทเนอร์ จัดอีเวนท์ หรือทำแคมเปญร่วมกันได้หมดเลย
เป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรที่ยั่งยืน

การเป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรที่มีจุดยืนเรื่องความยั่งยืนเหมือนกัน จะช่วยให้ผู้คนรับรู้ถึงความตั้งใจจริงของคุณในการสร้างความยั่งยืน และพาร์ทเนอร์เหล่านี้ จะเป็นกลุ่มคนที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณครบวงจรมากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงทรัพยากรคุณภาพดี และความรู้อีกมากมายในการสร้างยั่งยืนได้ในระยะยาว
5. ลงทุนกับการตลาดความยั่งยืน

ทำแล้วโลกไม่รู้ก็ไม่มีความหมาย ถ้าทำทุกอย่างที่ว่ามาแล้ว ก็อย่าลืมทำการตลาดเสริมเรื่องความยั่งยืน เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่สนใจและให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ด้วยนะ

ในส่วนของการโปรโมทนั้น คุณอาจจะไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าร้านของคุณคือร้านอาหารแห่งความยั่งยืน แต่ให้แทรกแนวคิดนี้เข้าไปในทุก ๆ อย่างแทน เช่น ลงภาพให้เห็น Packaging ที่เป็นกล่องกระดาษ คอยเล่าเรื่องราวของวัตถุดิบสุด Exclusive ที่คุณได้มาจากท้องถิ่น การทำ CSR เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือการบอกว่าเศษอาหารของทางร้านจะถูกเอาไปทำอะไรต่อ รวมถึงการทำแคมเปญแนะนำวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไปซื้อกับเกษตรกรโดยตรง และไม่ลืมที่จะเข้าร่วมในอีเวนท์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอยู่เสมอ เพื่อตอกย้ำจุดยืนที่คุณมี
ทำการตลาดด้านความยั่งยืน

เมื่อลงแรงไปกับวิธีต่าง ๆ แล้ว ก็อย่าลืมวัดผลและติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในทางโซเชียลมีเดีย ฟี้ดแบ็กจากลูกค้า หรือลองทำเซอร์เวย์ เพื่อดูว่าร้านของเรามีภาพลักษณ์แบบไหนในใจของผู้บริโภค เป็นร้านที่มีความยั่งยืนไหม? หรือยังขาดอะไรไปรึเปล่า? ลูกค้าจะตอบคุณได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจบ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำและพัฒนาต่ออยู่เรื่อย ๆ ต้องคอยศึกษาเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังอยู่บนหัวขบวนของการเปลี่ยนแปลง และคุณจะสามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้

สำหรับในปี 2023 นี้ พูดได้เลยว่า การสร้างโมเดลธุรกิจให้มีความยั่งยืนนั้นสำคัญมาก ๆ ถ้าคุณอยากได้ความสำเร็จในระยะยาว ลองโฟกัสกับวิธีต่าง ๆ ด้านบน และคิดเสมอว่า หนทางสร้างกำไรที่คุณกำลังทำอยู่ ต้องไม่ส่งผลเสียกับสิ่งแวดล้อม และยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ เพราะโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถรักษาสิ่งแวดล้อมได้ แต่ยังช่วยให้ร้านของคุณมีคุณค่าในใจผู้บริโภคและคนในสังคมที่ค่อย ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้

และถ้าอยากมีความยั่งยืนด้านผลกำไรและความปลอดภัย ไม่อยากให้รายรับต้องหายวับไปกับเหล่าคนโกง ก็อย่าลืมใช้ เช็คสลิป เครื่องมือตรวจเช็กสลิปโอนเงิน ตรวจจับสลิปปลอมนะครับ ตรวจเจอง่าย รู้ผลทันที ไม่มีที่ยืนให้คนโกงแน่นอน!

เช็คสลิป.com

หากคุณมีคำถามสามารถ ติดต่อเราได้ตลอดเวลา